วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2556

16 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแมว





1 . แมวใช้หางของมันในการรักษาสมดุลและการทรงตัว ซึ่งจะแตกต่างจากสัตว์ชนิดอื่น ๆ 

2.   การลูบแมวช่วยให้ตัวเราบรรเทาอาการเครียดลงได้

3. แมวไม่สามารถลิ้มรสหวานได้

4. แมวจะมีลูกแต่ละครั้งนั้น ลูกแมวจะออกมาไม่เกิน 2-6 ตัว 

5.หัวใจของแมวจะเต้น 110 -140 ครั้ง ต่อนาที

6. แมวมีความสามารถที่จะวัดอารมณ์ของคุณ การเปลี่ยนแปลงอารมณ์ของคุณนั้นมีผลต่ออารมณ์ของแมวด้วย

7. หนวด ตา และหูของแมวสามารถบ่งบอกอารมณ์ของมันตอนนั้นได้

8. แมวมีตาที่สามเรียกว่า Haw ซึ่งสามารถมองเห็นได้ยามที่มันอารมณ์ดี (ตาที่สามที่ว่าก็คือตาบ้องแบ๊วของมันเอง - -)

9. แมวมีการได้ยินที่ดีกว่ามนุษย์ และสุนัข

1o. แมวจะกินหญ้าเพราะจะช่วยในการย่อยอาหาร และยังกำจัดขนในช่องท้องที่มันเลียเข้าไปได้ด้วย

11. แมวมีหนวดประมาณ 24 เส้น ซึ่งจะสามารถใช้วัดระยะทาง


12. รอยยับที่จมูกแมวเป็นรอยยับที่มีเอกลักษณ์ คล้ายกับรอยมือของมนุษย์

13. ถ้าคุณสังเกตุเห็นแมวของคุณนอนกรน และกลิ้งไปมา นั่นแสดงว่ามันไว้ใจคุณ

14. บนลิ้นของแมวจะมีหนามเล็ก ๆ ซึ่งไว้จับของเหลว เช่นน้ำ

15. แมวสีขาวที่มีดวงตาสีฟ้ามีโอกาสสูงที่มันจะหูหนวก

16. Jacobson เป็นอวัยวะกลิ่นหอมพิเศษที่ตั้งอยู่ในหลังคาของปากของแมว อวัยวะนี้จะช่วยให้แมวใช้ในการวิเคราะห์กลิ่น


ข้อเท็จจริงเหล่านี้เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการหาความเป็นมาหรือสาเหตุ ว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับ

เจ้าแมวน้อยได้อย่างไร

หรือสำหรับใครที่เลี้ยงแมวก็อย่าลืมนำบทความนี้ไปสังเกตุเจ้าแมวของคุณด้วยนะครับ บ๊ายบายยยย^^



cadit  By Rachna Gupta


วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2556

แมว Sphynx




แมว Sphynx

แมว Sphynx เป็นหนึ่งในสายพันธุ์แมวที่หายากที่เป็นที่นิยมเพราะมีรูปลักษณ์ที่แปลกประหลาด และหายาก ถ้าหากคุณสนใจเจ้าแมวพันธุ์นี้แล้ว  บทความนี้จะสร้างความประหลาดใจให้คุณอย่างยิ่งเกี่ยวกับข้อมูลของเจ้า  " สฟิงค์ "

แมว " สฟิงซ์ " (Sphynxสายพันธุ์นี้ค่อนข้างแตกต่างจากแมวอื่น ๆ และไม่ค่อยมีผู้ใดค้นพบ เนื่องจากรูปร่างที่แปลกประหลาดแล้วนั้น นักวิจัยยังได้กล่าวว่าเจ้าสายพันธุ์สฟิงค์นั้นมีองค์ประกอบของคุณสมบัติที่ดีที่สุดของแมว อีกทั้งยังมีความยอดเยี่ยมเมื่ออยู่กับเจ้าของ ทำให้หลาย ๆ คนหลงรักได้โดยง่ายจากพฤติกรรมของมัน


ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจของ Sphynx 

คุณลักษณะที่โดดเด่นที่สุดของเจ้า Sphynx นั้นคืออยู่ที่ขน เพราะว่ามันมีขนน้อยมาก หรือแทบไม่มีเลยก็ว่าได้ นั่นคือเหตุที่มาของฉายา "แมวไร้ขน" ซึ่งอย่าเข้าใจผิดไปนะครับว่ามันขี้เรื้อนหรือเป็นโรคอะไรหรือเปล่า เซส
ซั่นการผสมพันธุ์ครั้งแรกของแมวเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อปี 1966 ในประเทศแคนาดา ซึ่งเจ้า Shorthair หรือแมวที่มีสายพันธุ์ที่ขนสั้นตามชื่อ ซึ่งเกิดจากการผิดธรรมชาติ หรือเกิดจากพันธุกรรมอันบกพร่อง เจ้า Sphynx ก็ได้ให้กำเนิดลูกมากมาย ต่อมาเรือย ๆ เหล่าบรรดานักวิจัยจึงเรียกตั้งชื่อสายพันธุ์แมวเหล่านี้ว่า "Canada Sphynx" หรือแปลก็คือ "แคนาดาโล้น" นั่นเองล่ะครับ โดยเวลาผ่านไปโดยที่ผู้คนเริ่มพูดถึงแมวสาย Sphynx  ต่อมาก็เลยกลายมาเป็นชื่อแบบเป็นทางการที่ใช้เรียกเจ้าแมวสายพันธุ์นี้นั่นเอง


ลักษณะเจ้าแมว Sphynx 

เป็นแมวที่มีกล้ามเนื้อหน้าอกกลมคล้ายถังน้ำ ท้องกลม ส่วนความยาวของลำตัวนั้นมีขนาดไม่ใหญ่มากไม่เล็กมาก  มีหน้าผากที่แบนพร้อมกระโหลกรูปลิ่ม มันมีตารูปใข่ขนาดใหญ่ที่ขยายขึ้นไปทางหู  ดวงตามีทั้งสีเขียว สีฟ้า และสีน้ำตาลแดง เปลี่ยนไปตามการเจริญเติบโตของมัน หูที่มีขนาดใหญ่มีฐานที่กว้างและปลายหูแคบ  ส่วนขานั้นขาหลังจะยาวกว่าขาหน้า อุ้งเท้ามีลักษณะเหมือนรูปไข่และมีเนื้อที่หนา

แมวสายพันธุ์นี้มีสีที่พบได้คือ สีครีม สีขาว และดำ สีของมันขึ้นอยู่กับเม็ดสีของผิวหนัง ถ้าตากแดดเป็นเวลานาน ๆ ก็อาจจะเปลี่ยนจากสีนึงไปอีกสีนึง ผิวจะย่นบริเวณที่หน้าและตามขา ที่ต่างกับส่วนบริเวณอื่น ๆ ผิวหนังจะเรียบ


พฤติกรรม

แมวสายพันธุ์นี้เป็นแมวที่เป็นมิตรและรักสนุกเป็นอย่างมาก มันรักและผูกพันธุ์ต่อเจ้าของเป็นอย่างมาก บุคคลิกน่ารักมีความร่าเริงและซุกซน เป็นเพื่อนเล่นกับเด็ก ๆ ได้ดี แถมยังปรับตัวเข้ากับสัตว์ชนิดอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่น สุนัข เป็นต้น รักความอบอุ่นชอบนอนใต้ผ้าห่ม


ที่อยู่อาศัย

เจ้า Sphynx นั้นเหมาะแก่การเลี้ยงในบ้านที่สุด เพราะผิวหนังของมันจะไม่สามารถรอดพ้นจากสภาพอากาศที่ไม่พึงประสงค์ เช่น แดดร้อน ๆ  หรือหิมะ อากาศหนาวเนื่องจากขาดขนปกคลุม  แต่ก็ควรจัดกิจกรรมกลางแจ้งบ้างเพื่อไม่ให้มันเบื่อ ทำได้แต่ต้อง มีสิ่งปกคลุมอยู่รอบบ้าน หรือหลังคา เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาเบื่อหน่าย และกิจกรมมผจญภัยควรจะต้องมีเพื่อให้เขาไม่ว่างและมีความสุขอยู่กับคุฯได้


วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2556

ดราก้อนหลี่ แมวแดนมังกร



     มังกรหลี่ หรือ  "Dragon Li Cats" เป็นหนึ่งในสายพันธ์ุุุแรก ๆ ของประเทศจีน ที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้นิยมแมว หรือนักเล่นแมว (ที่นู่นเข้าเล่นกันหยั่งกะพระเครื่อง  - - )  ซึ่งตอนนี้ Dragon Li เป็นสายพันธุ์แมวที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการในระดับสากล เพราะเจ้าแมวสายพันธุ์นี้มีความเฉลียวฉลาดเ็ป็น อย่างมาก ซึ่งจุดนี้แหละที่คือเสน่ห์ของเจ้าแมวพันธุ์นี้เลยล่ะ

     ในบรรดาสายพันธุ์แมวน้อย  เจ้ามังกรหลี่เป็นที่แปลกใหม่เป็นอย่างมาก ซึ่งแตกต่างจากสายพันธุ์แมวที่นิยมกัน เพราะมังกรหลี่นั้นเป็นสายพันธุ์ตามธรรมชาติ ซึ่งก็หมายความว่า มันไม่ได้ถูกสร้างขึ้นหรือผ่านการเพาะพันธุ์ หรือผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์มาแต่อย่างใด แต่เป็นวิวัฒนาการตามธรรมชาติในประเทศจีนล้วน ๆ  ทฤษฎีชั้นนำในต้นกำเนิดสายพันธุ์นี้ว่ามังกรหลี่นั้นมันเคยเป็นแมวป่าที่โดดเด่น  ซึ่งหมายความว่ามันสามารถปรับตัวเองตามธรรมชาติจากที่อยู่ในป่าจนมาที่มีมนุษย์อยู่รอบ ๆ ได้เป็นอย่างดี แต่สิ่งที่สำคัญก็ขึ้นอยู่กับอาหารและการดูแลพวกมันด้วย




ลักษณะที่โดดเด่น

     เจ้ามังกรหลี่นี้มีขนที่สั้น  ในแมวขนาดกลางลายบนตัวจะสีน้ำตาลเข้ม  ดวงตากลมโต มีสีเขียว หรืออาจมีสีเหลือง  หรือสีน้ำตาลก็ได้ แต่ดวงตาที่ชาวจีนพิจารณาว่าดีที่สุดก็น่าจะเ็ป็นสีเขียวซึ่งดีที่สุดสำหรับสายพันธุ์นี้ และอีกหนึ่งเอกลักษณ์ทางกายภาพที่โดดเด่นคือมีความแข็งแรงของร่างกาย ก้ามเนื้อของตัวผู้จะมีขนาดใหญ่กว่าเพศเมีย แมวชนิดนี้มักจะมีอุ้งเท้ากว้างอย่างเห็นได้ชัด

บุคลิกภาพอันโดดเด่น

      มีความรักเจ้าของ หรือมีความจงรักภักดีต่อเจ้าของเป็นอย่างมาก  แข็งแรง วิ่งซุกซนและฉลาดมากมีกำลังเหลือล้น หากจะเลี้ยงควรมีพื้นที่ที่กว้างพอสำหรับเจ้าหลี่ หากอาศัยอพาร์ตเม้นเล็ก ๆ ก็ไม่เหมาะเป็นอย่างยิ่งหากคิดจะเลี้ยงเจ้าหลี่ตัวนี้

      เป็นเรื่องที่ยากเป็นอย่างมากที่จะหาสายพันธุ์นี้จากประเทศอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ประเทศจีน เพราะสายพันธุ์นี้เพิ่งเป็นที่รู้จักมันจึงไม่ได้รับการส่งเสริมอย่างเป็นที่กว้างขวางนัก


      สุดท้ายนี้ก็ขอฝาก ไว้เช่นเดียวกับแมวสายพันธุ์อื่น ๆ ว่าเจ้ามังกรหลี่นี้ควรได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง    
สิ่งที่ควรทำก็คือการทำความสะอาดฟันและหูอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ แมวสายพันธ์ุนี้มีชีวิตอยู่ได้ถึง 16 ปี เลยล่ะครับหากดูแลเอาใจใส่มันเป็นอย่างดี

วันพุธที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2556

ชิโร่ เน็ตไอดอล แห่งวงการแมว !!




อันตัวข้า !     มีนาม     ว่าชิโร่

แมวไฮโซ    แสนโด่งดัง     ทั้งทั่วหล้า

ภูมิลำเนา    ถิ่นฐาน     อยู่แดนปลา (ดิบ)

คนมากหน้า     หลายตา     นิยมเรา



ครั้นจะถาม      ถึงรูปลักษณ์     สุดจะเท่ห์  (ตรงไหนวะ)

มีเสน่ห์     คนมอง     ชวนหลงไหล

ครั้นถามถึง     วัน ๆ      นั้นทำไร

ถามทำไม     แมวจะนอน     น่ารำคาญ  

(ฮ๊าววว วว ววว วว)


ขอฝากเนื้อ    ฝากตัว    เจ้าตัวน้อย  (น้อยกว่าบ้าน)

โปรดอย่าคอย    หากเอ็นดู   ในตัวข้า

จงติดตาม    ผลงาน     อย่าขาดตา

หากพลาดมา     เสียใจ    นะเออนะ    (- - )




ไปก่อนล่ะเนี๊ยวว วว วว วววว วว    ว ว ว 





   

ขำ ๆ น่ะครับ ฮ่า ๆ ๆๆๆ ยังไงก็ฝากแมวจากแดนปลาดิบ นามว่าชิโร่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจไว้






สักคนเอ้ยสักตัว น่อย ๆ ด้วยนะคร๊าปปปป

^^


  



วันอังคารที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2556

Thai Cat แมวพันธุ์ไทย : วิเชียรมาศ





ประวัติ :

 เจ้าวิเชียรมาศนี้นะครับ คำว่า " วิเชียรมาศ " เป็นภาษาออกจะโบราณ ๆ ไม่ค่อยคุ้นหูกันซักเืท่าไหร่ นั้น มี
ความหมายที่แปลว่า เพชรแห่งดวงจันทร์ (Moon Diamond)เจ้าแมววิเชียรมาศนี้นะครับมักจะถูกเข้าใจผิดว่า เป็นแมวเก้าแต้ม แต่ที่จริงแล้วนั้นไม่ใช่ เจ้าแมวเก้าแต้มนั้นจะมีแต้มสีขาว บนร่างกายอยู่ 9 แห่ง สาเหตุที่เข้าใจผิด ว่าแมววิเชียรมาศนั้น ก็มีพื้นที่สีขาวอยู่เหมือนกัน คือแต้มที่จมูกครอบไปถึงปากหนึ่งแห่ง กับที่ขาอีกสี่ ที่หูอีกสอง ที่หางอีกหนึ่ง และที่อวัยยวะเพศอีกหนึ่ง เช่นกัน ตามตำรานั้นแมววิเชียรมาศ ว่าไว้ว่าแต้มตามร่างกายนั้นจะเป็นสีดำดั่งหมึกวาด แต่ใครที่สังเกตุดี ๆ ก็จะเห็นว่ามันไม่ได้ดำซะขนาดนั้น แต่เป็นสีน้ำตาลที่เข้มมากต่างหาก หรือที่ต่างประเทศเรียกว่า Seal Brown หรือแต้มสีครั่ง เจ้าแมววิเชียรมาศนี้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศในฉายาแมวสยาม (Siamese Cat) แต่ที่ต่างประเทศนั้นจะมีแต้มสีที่หลากหลายกว่า แต่ประเทศไทยบ้านเรานั้นจะยอมรับเฉพาะที่เป็นทีน้ำตาลเข้มเท่านั้น ดวงตาที่เป็นสีฟ้าก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่บ่งบอกความเป็นแมวชนิดนี้อีกด้วยล่ะครับ




ลักษณะที่เด่น :

 สีขน : เป็นสีน้ำตาลอ่อน ๆ หรือสีขาว จนจะสั้นขึ้นติดกันแน่น มีแต้มสีน้ำตาลไหม้ บริเวณใบหน้าและหูทั้งสองข้าง เท้าทั้งสี่ ที่หาง และที่อวัยวะเพศ(ทั้งตัวผู้และตัวเมีย) ขณะที่เป็นลูกแมวที่ขนจะออกสีครีมอ่อน ๆ หรือขาวนวล และจะเข้มตามลำตับเมื่อเติบโต

ส่วนหัว : รูปหัวไม่กลมและไม่แหลมจนเกินไป หน้าผากใหญ่และแบน จมูกสั้น ใบหูใหญ่ตั้งชี้ชูชันบนหัวอย่างเป็นสง่า


นัยต์ตา : สีฟ้า



ส่วนหาง : หางจะค่อนข้างยาว และช่วงปลายจะแหลมชี้ตรง ช่วงโคลนหางจะใหญ่ และจะค่อย ๆ เล็กลงเรื่อย ๆ จนสุดปลายหาง ขายาวเรียวและไดสัดส่วนกับลำตัว





จุดด้อย : ขนยาวเกินไป และมีแต้มสีไม่ครบทั้งเก้าแห่ง หรือแต้มสีสีอื่นที่ไม่ใช่สีน้ำตาลไหม นัยน์ตาสองข้างมีสองสีหรือมีสีอื่น ๆ หูไม่ตั้ง ตาเอียง หางสั้นเกินไป ปลายหางหงิกงอ ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี (อันท้ายต้องระวัง)









ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย

วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2556

Thai Cat แมวพันธุ์ไทย : มาเลศ






     

ประวัติ : แมว "มาเลศ" หรือชื่อที่เรา ๆ คุ้นหูอีกชื่อหนึ่ง ว่า "แมวสีสวาท" ต้นกำเนิดค้นพบที่จังหวัดนครราชสีมา อำเภอพิมาย หรือที่เรารู้จักในชื่อจังหวัดโคราชนั่นเองครับ เป็นหนึ่งในสิบเจ็ดตัวที่ถูกบันทึก
ใน "สมุดข่อย" ว่าเลี้ยงแล้วจะโชคดี ปัจจุบันสมุดข่อยที่ว่านั้น ถูกเก็บบันทึกไว้ที่หอสมุดแห่งชาติ ใน
กรุงเทพฯ นั่นเองล่ะครับ

ลักษณะที่เด่น : สีขน : เป็นสีเทา ๆ ออกเงิน ๆ ทั่วตัว หรือที่เรียกว่า สีสวาท สีจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่เกิดจนตาย

ส่วนหัว : หากมองจากข้างหน้าจะมีลักษณะคล้ายหัวใจ ส่วนหน้าผากใหญ่และจะแบน ใบหูจะตั้ง ผิวหนังบริเวณจมูกและริมฝีปาก จะออกสีเทา ๆ หรือสีม่วงอ่อน ๆ

นัยต์ตา : มีสีเหลืองอำพัน หรือสีเขียวสดใสเป็นประกาย ขณะตอนเป็นลูกแมวดวงตาจะออกสีฟ้า เมื่อเติบโตขึ้นก็จะเปลี่ยนสีเป็นสีเขียว ใบไม้ จนถึงออกเหลือง ๆ สดใส

ส่วนหาง : หางจะค่อนข้างยาว และช่วงปลายจะแหลมชี้ตรง ช่วงโคลนหางจะใหญ่ และจะค่อย ๆ เล็กลงเรื่อย ๆ จนสุดปลายหาง ขายาวเรียวและไดสัดส่วนกับลำตัว

จุดด้อย : ขนยาวเกินไป และมีสีอื่นปะปน ตาสองข้างอาจเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่นจมูกหัก หูไม่ตั้ง หางหงิกงอ และดุมาก เลี้ยงลูกไม่ค่อยดี (ลักษณะที่เป็นจุด ด้อยส่วนมากจะเกิดขึ้นกับบางตัวเท่านั้น)


นับว่าเป็นแมวพันธุ์ไทยที่ชาวต่างชาติต่างให้ความนิยมและมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างมากใน สหรัฐฯ





                                                                                                            ทีมา : วิกิพีเดีย
                                         



วันพุธที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2556

แมวท้องใกล้จะคลอดควรทำอย่างไร ?





สวัสดีครับชาวเน็ตที่รักทั้งหลาย !

วันนี้ผมมีบทความเกี่ยวกับผู้ที่เลี้ยงเจ้าเหมียวตัวเมีย แล้วปล่อยให้มีลูกหรือว่าอยากได้เจ้าเหมียวตัวน้อย ๆ น่ารัก ๆ มาเลี้ยงอีกสัก 2 - 3 ตัวหรือมากกว่านั้นก็ตามแต่ เลยเลี้ยงแบบปล่อย ให้มันไปกิ๊กกั๊กกับตัวผู้ข้างนอกบ้าน เกิดท้องใกล้คลอดมีวิธีรับมือด้วยตัวเองอย่างไรมาติดตามกันครับแมวนั้นเวลาคลอดน้องมาส่วนมากนั้นไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ ถ้าคลอดเองตามธรรมชาติปกติของมัน แต่ที่เป็นปัญหาสำหรับผู้ที่เพิ่งเลี้ยงแมว แมวบ้าน หรือเลี้ยงมันมาตั้งแต่ตัวกระจิ๊ดริ๊ด คลุกคลีอยู่แต่ในบ้านนั้น ที่เป็นเพศเมียด้วยนั้น พอโตขึ้นเวลาท้องก็จะเกิดปัญหาต่อการคลอดเป็นอย่างมากเลยล่ะครับ ส่วนใหญ่แมวที่คลอดลูกมาครั้งแรก ลูกแมวนั้นก็จะตายบ้างรอดบ้าง เพราะสาเหตุหลัก แล้วแม่แมวจะเบ่งนานมาก ๆ จนทำให้ลูกแมวเกิดตายขณะเบ่งออก สาเหตุก็อย่างที่กล่าวไว้ข้างบนแหละครับว่าเป็นการคลอดครั้งแรกครับ จึงไม่ค่อยมีภูมิต้านทานเท่าไหร่นัก


                  สำหรับประสบณ์การทำคลอดของผู้พิมพ์บทความเองนั้นนะครับ ก็คือวันนั้นผมเองก็นั่งดูรายการทีวีอยู่บ้านนั้น จู่ ๆ เจ้าเหมียวของผมก็เดินมาหาผมครับ เดินมาพันแข้งพันขาเหมือนจะหิวข้าวเลยครับ แต่ที่มีมากกว่านั้น คือว่ามันหอบครับ หอบหนักเลย หอบจนลิ้นห้อยเลยครับ และอีกสิ่งหนึ่งเลยที่ทำให้มั่นใจว่า เอาละ มันต้องคลอดแน่ ๆ เลยวันนั้นผมอยู่บ้านคนเดียวด้วยล่ะสิ ทำไงดี เอาวะ! ไปตามเพื่อนบ้านมา เป็นป้าครับ ป้าแกก็บอกว่าไม่ต้องตกใจไป ปล่อยมันคลอดของมันเอง ผมก็เชื่อป้าเค้าพูดครับ พอซักพักมันไม่ยอมไปคลอดซักที ประมาณ 5 นาที ต่อจากนั้นได้ น้ำคล่ำมันไหลออกมาผมตกใจใหญ่เลย แล้วมันก็ไม่ยอมไปไหนเลยล่ะ เดินวนไปมาเหมือนว่ามันจะนำทางไปตรงไหนของบ้านซักแห่งหนึ่งอะไรอย่างนั้นแหละครับ พอผมทำท่าจะเดินตาม มันเดินนำหน้าผมลิ่วววว พอผมหยุดมันก็ร้องอีก ทีนี้ผมเลยเดินตามมันไปเรื่อย ๆ เลยครับ แล้วมันก็พาผมไปหยุดที่ตระกร้าใส่ของเก่า ๆ ที่ไม่มีของใส่อยู่ มันกระโดดเข้าไปนอนในตระกร้าเลยทีนี้ ผมจึงไปเอาผ้าขนหนูผมมารองในตระกร้า ทีนี้แหละครับ ! มันหอบหนักกว่าเก่าอีก แหละมันไม่เบ่งด้วย ผมเลยเปร่งเสียง อึอื้อออออออ ออกมาเหมือนรู้ครับ ! มันขมิบท้องตามเสียงผม ที่นี้ผมเลย ร้องอีก อึอื้อ ๆๆๆ อยู่ประมาณ ชั่วโมงนึงอะครับ เอ๊ะ ! เห็นแวบ ๆ แล้วครับเหมือนรู้สึกจะเป็นขาหรือหางประมาณนั้น แล้วก็พรวด!!! ออกมาครึ่งตัวครับ และก็แช่อยู่แบบนั้นประมาณ15 นาที น่าจะได้ หลังจากนั้นพรวดออกมาีหมดทั้งตัวเลยครับมีเหมือนเป็นฝ้าหุ้มตัวออกมาพร้อมสายสะดือติดจากช่องคลอดกับช่องท้องของลูกมัน มันเลียกินรกหมดเลยครับ และแม่แมวก็เลียตัวให้แมวน้อยอยู่นานมากครับ เลียหน้าด้วย ไม่ขยับเลยครับ นิ่ง......ไม่รอดครับ เสียชีวิต ผมร้องไห้เลยตอนนั้น ต่อมาอีก 5 นาที ตัวที่สองโผล่มาแล้วว แต่คราวนี้ทางหัวออกมาก่อน และก็พรวด! ออกมาทั้งตัวเลยครับตามเสต็ป เจ้าเหมียวจัดการเลียทำความสะอาดให้ลูกมันเลียกินรกเสร็จเรียบร้อยครับ ลูกมันยังนิ่งอยู่ ผมก็กังวลมากเลย สงสัยจะไปอีกตัวแน่ ๆ ในใจคิดอยู่ครับ เจ้าเหมียวก็เลียลูกมันไปซักพักเจ้าเหมียวเลียที่หน้าลูกมันครับ ลูกมันร้องออกมาแล้ว เย้ !!!!!!!!!   มันรอดแล้ว ! พอมันขยับตัวได้ซักพัก มันก็คลำหานมแม่ใหญ่เลยครับ หาอยู่พักนึงผมก็เลยช่วยมันโดยเอามือจับมันให้ปากจ่อนมเลยครับ ทีนี้มันดูดใหญ่เลยน่ารักมากครับ ซักพักรกอีกตัวก็พรวดออกมา หรือใครจะเก็บรกมันก็ได้นะครับ เก็บและนำไปตากแดดพอแห้งก็ห่อผ้าแดง เพราะตามความเชื่อจะทำให้โชคดีครับ หรือไม่ก็ปล่อยให้แม่มันกินไปเลยก็ได้ครับ เพราะมันเป็นยาบำรุงของแมว ผมดีใจมากครับอย่างน้อยก็รอดมาตัวนึง อีกตัวผมก็เอาไปฝังในกระถางหน้าบ้าน ปลื้มใจมาก บางคนสงสัยว่ามันไม่หวงลูกหรอ ถ้าเลี้ยงมันมาตั้งแต่เด็กมันจะไม่หวงเลยล่ะครับ จับได้หมด ช่วงนั้นผมเห่อมากเลยครับเล่นกับมันทั้งวัน และทุกวันเลย พอมันกินนมแม่มันเสร็จเมื่อไหร่ และถ้ามันยังไม่นอน ผมก็จะไปฉกมันมาเล่นเสมอ ๆ เลยครับ แต่อุ้มมันเบา ๆ นะครับ เดี๋ยวมันจะเฉาตายกันพอดี อิอิ


สุดท้านนี้ผมต้องขอขอบคุณทุกคนที่ทนอ่านบทความของผมจนจบ และหวังว่าคงจะดูแลเพื่อน
ตัวน้อย ๆของคุณอย่างดีที่สุด เหมือนผมนะครับ ขอขอบคุณมากครับ ^^
ติดตามบทความน้องแมวต่อได้เร็ว ๆ นี้คราปปปป !!!!!!!!!!






ผู้เขียนบทความ   Phinyo Pooniam 

วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2556

ปลาทู ! ทำให้หนูขนดี


             ปัจจุบันนั้นอาหารแมวมีมากมายหลายยี่ห้อ ผู้ผลิตต่างก็แข่งขันผลิตเพื่อสู้กันในทางการตลาด

มากมายหลายแบรนด์ เยอะแยะไปหมด ไม่ว่าจะอัดเป็นเม็ดมา แบบในกระป๋องบ้าง โอ๊ยย ! สารพัดครับ

  แต่อาหารที่ยังคงยอดฮิตและมีประโยชน์โดยที่สุดถูกมองข้ามไปอย่างมากในปัจจุบันก็คือ " ปลาทู "

  นั่นเองล่ะครับ

               มีคนชอบถามว่า แล้วทำไมแมวต้องกินปลาทูด้วยล่ะ คำตอบก็เพราะปลาทูนั้นมีประโยชน์ที่

จำเป็นและสอดคล้องกับ ร่างกายของเจ้าเหมียวแทบจะทุก ๆ ด้านเลยล่ะครับ   ^0^ 

              ส่วนประโยชน์ที่ชาวบ้านเรา ๆ พอจะเดาได้นั้นก็มี !

         1. หม่ำ ๆ แล้วสายตาจะดี  (จับหนู จกนก แงบจิ้งจก เค้านี่แหละเซียน ^^)

         2. บำรุงขนให้สวยนุ่มลื่นเหมือนให้แชมพูพี่อั้ม  (ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ ........ )

         3. ฯลฯ  บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

              ส่วนทางวิชาการขึ้นมาหน่อยก็มี ! 
          
         ในปลาทูนั้นมีโอเมก้า 3 ช่วยเสริมสร้างการเติบโตของร่างการ และช่วยบำรุงสมองให้มีความฉลาด

เฉลียวมากขึ้นนั่นเอง แต่นแต๊นนนนนนนนนน !    (เด็ก ๆ ก็หม่ำ ได้นะจ๊ะ ไม่ใช่ให้แต่อีเหมียวมันกิน - - 

หรือว่าใครก็กินได้หมดอ่ะแหละ 555555)  


        *******  สุดท้ายนี้ผมต้องขอขอบคุณที่อ่านบทความอันไร้สาระจนจบ - -  แต่เหนือสิ่งอื่นใดแล้วจะเป็นการบ่งบอกถึงความเอาใจใส่ของเจ้าของมากกว่านะครับ เอาใจใส่ดูแลมันดี ๆ ล่ะ... ..... ... . บ๊าย บ่ายยยยยยยยยยย


แมวหนูป่วย ช่วยเหมียวด้วย !!!



               สวัสดีครับทั้งผู้รักและชื่นชอบแมวทั้งหลาย !  เคยทราบกันไหมเอ่ยว่าเวลาแมวป่วยหรือไม่สบายนั้นอาการของเจ้าเหมียวมันเป็นยังไงหนอ แล้วเวลาเป็นไข้ควรจะทำอย่างไรจะรักษาอย่างไร...

              จากที่ผมพบเจอกับเจ้าเหมียวของตัวเองนะครับ ก็จะมีอาการดังนี้
             
         1. ขี้อ้อนมาก มากถึงมากที่สุดดด ! อ้อนซะประมาณว่าไม่เคยประจบขนาดนี้มาก่อนเลยอะ อ้อนซะเราไม่ไหนไม่ได้เลย เดินไปไหนเจ้าเหมียวก็จะเดินตาม นั่งตรงไหนก็จะตามมานั่งมาหนุนตักตลอด

         2. ตัวเจ้าเหหมียวก็จะร้อน ๆ เหมือนมนุษย์ไม่สบายทั่วไปเลยครับ

         3. เหมือนแมวดื่มเหล้ามาอะครับ - -   เวลาเดินจะเซ ๆ เหมือนอาการคนแฮงค์เหล้ามา  แล้วเวลาเราเอามือไปผลักมัน มันก็จะล้มเอาง่าย ๆ เลย ผลักเบา ๆ ก็เซแล้ว (ข้อนี้ตอนเจอครั้งแตกถึงกับกลัวเลยแหละครับว่ามันจะตายมั๊ย - -)

         4. ไม่ทานข้าวด้วยครับ (- -)  (ข้อนี้ก็กลัวเหมือนกัน เจ้าเหมียวของผมไม่กินอยู่หลายวันทีเดียว)

................แต่จากนั้นต่อมา 1-2 วัน มันก็หายดีแล้วครับ กลับมาซนเหมือนเก่า (เฮ่อออ ... ... .. โล่งอก !)
นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว *-*

                ส่วนเรื่องการรักษานี้ผมไม่ได้ทำอะไรให้มันเลยครับ แค่ปล่อยให้มันนอนพักผ่อน
       
              **** แต่ถ้าเจ้าเหมียวของท่านไหนเป็นทานกว่านี้ล่ะก็ควรนำไปหาสัตวแพทย์รักษาน่าจะดีกว่านะครับ แต่เคสผมนี้ กะว่าถ้าเจ้าเหมียวมันยังไม่หายก็จะพามันไปรักษาเหมือนกัน ******

         สุดท้ายนี้ก็ดูแลมันให้ดี ๆ ด้วยล่ะ เป็นไปได้ก็อย่าให้มันเป็นอะไรไป ขาดเจ้าเหมียวไป แล้วจะเหงาไม่รู้ด้วยเด้ออออ  *w*